ไม่บ่อยนักที่ในบ้านเราจะได้เห็นภาพยนตร์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวงการกีฬา ที่สร้างมาจากเรื่องจริงเเละเหตุการณ์จริง
"ฮักบี้ บ้านบาก" ผลงานการสร้างของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คือ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ซึ่งเล่าเรื่องเเละมีเนื้อหา เกี่ยวกับนักกีฬารักบี้เท้าเปล่า ทีมรักบี้บ้านบาก ของโรงเรียนบ้านบาก อำเภอ วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยภาพยนต์เรื่องนี้ มีกำหนดคิวฉายทั่วประเทศ 29 ส.ค 2562
พล็อตเรื่องของ "ฮักบี้ บ้านบาก" สร้างเเละอ้างอิงจากชีวิตจริงของเด็กๆทีมรักบี้บ้านบาก หรือ นักรักบี้เท้าเปล่า ที่มีโอกาสได้ตะลุยท้าฝัน ลงเเข่งขันรักบี้ 7 คน รุ่น 12 ปี ในรอบประเทศไทย ทว่ากลับต้องพบเจอกับปัญหาเเละอุปสรรคมากมาย
หนังเรื่องนี้โดดเด่นที่ตัวนักเเสดงนำ ซึ่งใช้เด็กๆนักกีฬารักบี้จริงๆ ของทีมโรงเรียนบ้านบาก มาร่วมถ่ายทอดอารมณ์ เเละความรู้สึกของทีมที่เคยประสบเเละพบเจอกับทั้งเรื่องราวที่ดีเเละร้ายมาจริงๆ
ความน่าสนใจของทีมรักบี้บ้านบาก หรือ ทีมรักบี้เท้าเปล่า เกิดขึ้นก็เพราะความไม่พร้อม เเละยากจน ผู้เล่นกว่าครึ่งในทีมไม่มีเเม้กระทั่งรองเท้ากีฬารักบี้ ทำให้ในเวลาเเข่งขัน เมื่อถึงช่วงเวลาที่เปลี่ยนตัวคนที่โดนถอดออก ต้องถอดรองเท้าให้เปลี่ยนให้กับคนที่ลงสนามได้ใส่เเทน
ในข้อจำกัดหลายอย่าง พวกเขาสู้ด้วยหัวใจ ก่อนหักปากกาเซียน คว้าสิทธิ์เป็นตัวเเทนทีมรักบี้ 7 คน รุ่น 12 ปี ของภาคอีสาน ลุยรอบสุดท้าย ศึกเยาวชนประเทศไทยเป็นครั้งเเรกได้สำเร็จ ในปี 2559
เเละเเม้จะฝ่าฟันเข้ารอบมาได้ เเต่ทีมรักบี้บ้านบาก ภายใต้การทำทีมของ ครูธงชัย เมืองจันทร์ ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้เด็กๆ ยังต้องดิ้นรนอย่างหนัก ในการหาทุนเพื่อเดินทางมาตามฝัน เเข่งขันในรอบสุดท้าย ที่คลอง 6 จ.ปทุมธานี
กระทั่งก่อนการเเข่งขัน 3 วัน ทีมได้รับการสนุนทั้งเรื่องเงินค่าเดินทางเเละชุดเเข่งขัน ก่อนจะได้ตามฝันขึ้นรถเข้ามาเเข่งขันในรอบสุดท้าย
ปัญหาเเละความวุ่นวายยังไม่จบ โดยเงินก้อนนั้นเพียงพอสำหรับค่าเดินทาง ทว่าไม่เพียงพอสำหรับค่าเช่าห้องเเละโรงเเรมให้เด็กอยู่ ทำให้โค้ชเเละผู้ปกครองในทีมต้องติดต่อคนที่รู้จักในละเเวกสนามเเข่งขันเพื่อขอนำเด็กเข้าไปนอนพักอาศัย
ก่อนสุดท้ายจะมาได้รับความเมตตาจาก "เสี่ยน้อย" เจ้าของ บริษัท อารีย์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ย่านรังสิต ที่ยินดีเเละเห็นใจจะช่วยเหลือเด็กๆกลุ่มนี้
ความเซอร์ไพร์สไม่จบ เมื่อรักบี้บ้านบาก จัดการล้มยักษ์ ก่อนจะทะลุชิงชนะเลิศ กับ ทีมวชิราวุธ ในปีนั้น ทว่าสุดท้ายพ่ายเเพ้ไป ทำให้ได้เพียงตำเเหน่งรองเเชมป์ ในรุ่น 12 ปี
เรื่องราวในวันนั้น ทำให้หลายคนรู้จักเเละจดจำ "นักสู้เท้าเปล่า" เเห่งที่ราบสูงที่พร้อมสู้สุดใจ ก่อนจะกลายมาเป็นภาพยนตร์สัญชาติไทย ที่ตีเเผ่เเละสะท้อนภาพของกลุ่มนักรักบี้ที่มีต้นทุนเป็นศูนย์ ที่เเม้จะเทียบไม่ได้กับทีมรักบี้อื่นๆ เเต่พวกเขามีหัวใจเเละความพยายามที่น่าชื่นชม
ความฝันที่มีมาพร้อมขีดจำกัด เกิดขึ้นได้จริง เพราะพวกเขามีความเชื่อ ความมุ่งมั่น เเละลงมือทำ โดยไม่รีรอโอกาส ซึ่งเด็กๆกลุ่มนี้ ต่างภูมิใจเเละดีใจ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนและจังหวัดได้ทั้งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะทำได้
ฝันในวันนั้นกลายเป็นจริง เเม้สุดท้ายไปไมถึงตำเเหน่งเเชมป์ เเต่พวกเขาได้สร้างชื่อให้เป็นที่จดจำ เเละรู้จักในฐานะทีมเท้าเปล่า
ขณะเดียวกันเด็กๆทีมรักบี้บ้านบากรุ่นนั้น ได้ใช้ความสำเร็จจากวันนั้น ในการต่อยอดความฝันในชีวิต ด้วยการเข้าเรียนในสถานโรงเรียยมัธยมศึกษาดีๆ
เเม้ผู้เล่นหลายคนจากทีมชุดประวัติศาสตร์ในปีนั้น จะจบการศึกษาไปเเล้ว เเต่ก็มีนักรักบี้สายเลือดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เเทน โดยในการเเข่งขันรักบี้ 7 คน รุ่น 12 ปี ประเทศไทย เมื่อปี 61 พวกเขาก็ฝ่าด่านทีมเเกร่งเข้าไปคว้าอันดับ 4 มาได้
ส่วนในหนังเรื่องนี้ เราอาจได้เห็นฉากเด็ด ตลก ดราม่า เเละซึ้งกินใจ รวมถึงเเง่คิดเเละมุมมองดีๆ จากตัวละคร เเละเรื่องราวในเหตุการณ์จริง ที่ถูกนำมาตีเเผ่เป็นบทหนังลงจอเงิน
ความสามารถทางด้านกีฬารักบี้ พวกเขาทำให้เห็นว่าโดดเด่น เกินใครหลายคนคาด จนเวลานี้ได้รับการยอมรับไปเเล้ว
มาถึงฝันรอบนี้ กับโอกาสนี้ คงต้องมารอดูเเละช่วยลุ้นกับอีกครั้ง กับอีกบทบาทหนึ่งในฐานะนักเเสดงของเด็กๆทีมรักบี้บ้านบาก ในภาพยนตร์ "ฮักบี้ บ้านบาก"
นาย ป.
นาย ป.